10 เรื่องต้องรู้ก่อนซื้อคอนโดมิเนี่ยม

0
519

เพราะการซื้อคอนโดมิเนียมเป็นการลงทุนก้อนใหญ่เพื่ออนาคต คุณต้องการผลลัพธ์ที่คุ้มค่าเงิน ทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพ อีกทั้งยังบวกความภาคภูมิใจที่ได้เป็นเจ้าของ  ก่อนตัดสินใจซื้อจึงต้องรู้ลึกรู้จริงในประเด็นต่างๆเหล่านี้ เพื่อให้ได้ในสิ่งที่ดีที่สุด

  1. ซื้อเพื่ออะไรกันแน่ – คุณควรตอบตัวเองให้ชัดเจนถึงวัตถุประสงค์ในการซื้อและเรียบเรียงความต้องการใช้สอยออกมาให้ละเอียดก่อนเลือกซื้อ เพราะข้อมูลเหล่านี้จะเป็นตัวกำหนดคุณว่า คอนโดแบบไหนที่คุณควรซื้อจริงๆ ไม่ใช่หลงเพ้อไปตามความสวยของห้องตัวอย่างหรือคารมดีๆของคนขาย พิจารณาพื้นที่ใช้สอยรวมทั้งสาธารณูปโภคต่างๆ ที่จำเป็นว่ามีครบถ้วนหรือไม่  และที่สำคัญคือต้องดูขนาดพื้นที่และจำนวนห้องให้พอกับความต้องการใช้สอยทั้งปัจจุบันและอนาคต เช่น การมีครอบครัว หรือมีญาติพี่น้องมาอยู่ด้วย

  2. งบประมาณ – วิเคราะห์สภาพคล่องของคุณ ควบคู่ไปกับการศึกษารายละเอียดในการผ่อนชำระรวมถึงค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมอื่นๆในการทำสัญญาซื้อขายและการโอนเพื่อที่จะได้รู้ว่าคุณมีความพร้อมมากน้อยแค่ไหนในการรับภาระค่าใช้จ่าย และค่าใช้จ่ายทั้งหมดเป็นตัวเลขที่สมเหตุสมผลและคุ้มค่าเงินของคุณแค่ไหน
  3. ข้อได้เปรียบ-เสียเปรียบของทำเลที่ตั้งแต่ละโครงการ–  พิจารณาถึงสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อคุณภาพชีวิต เช่น ความปลอดภัย ความมีสุขอนามัยที่ดี ทัศนียภาพที่ดี ความสะดวกในการเดินทางความสะดวกในการจับจ่ายใช้สอย และศักยภาพในแง่การลงทุน หากต้องการปล่อยให้เช่าหรือขายในอนาคตก็ควรเป็นทำเลดีๆที่คนอื่นอยากมาซื้อหรือมาเช่าต่อจากคุณ

  4. ที่จอดรถ – อาคารนั้นมีที่จอดรถเพียงพอหรือไม่ ราคาคอนโดบางแห่งไม่รวมค่าที่จอดรถ ถ้าคุณต้องการนำรถมาจอดอาจต้องจ่ายเพิ่มต้องศึกษารายละเอียดในส่วนนี้ให้ชัดเจน เพราะหลายๆคนที่ไม่มีประสบการณ์ก็ไม่ได้คิดถึงข้อมูลส่วนนี้และอาจคิดเข้าข้างตัวเองว่า ซื้อคอนโดก็น่าจะมาพร้อมที่จอดรถฟรีๆอยู่แล้ว ซึ่งอาจไม่ใช่อย่างนั้นเสมอไป
  5. อัตราค่าใช้จ่ายและค่าบำรุงส่วนกลาง– เพราะค่าใช้จ่ายในการซื้อคอนโดนั้นไม่ได้จบแค่ราคาซื้อขาย ค่าโอน ค่าทำสัญญา แต่ยังมีค่าใช้จ่ายที่ต่อเนื่องไปตลอดอายุการครอบครอง คือค่าใช้จ่ายส่วนกลางต่างๆ เพื่อใช้ในการจ้างนิติบุคคลมาดูแลความเป็นระเบียบเรียบร้อยให้กับภาพรวมของโครงการ รวมถึงค่าใช้จ่ายปลีกย่อยที่จะต้องชำระเป็นรายเดือนหรือรายปีอื่นๆ ซึ่งคุณจะต้องศึกษาให้ละเอียดและเตรียมงบประมาณในส่วนนี้เอาไว้ให้เพียงพอในระยะยาวด้วย

  6. ประสิทธิภาพของผู้ดูแลส่วนกลาง หรือนิติบุคคลอาคาร– คอนโดที่คุณซื้อไม่ว่าจะเพื่ออยู่อาศัยหรือลงทุนจะมีศักยภาพที่ดีในการอยู่อาศัยมากน้อยหรือยาวนานแค่ไหนนั้น ปัจจัยสำคัญที่สุดอย่างหนึ่งคือผู้ที่ทำหน้าที่บริหารจัดการโครงการ ควรศึกษาข้อมูลหรือสอบถามผู้ที่อยู่อาศัยมาก่อน หรือหาข้อมูลเปรียบเทียบในเรื่องชื่อเสียงและคุณภาพของบริษัทหรือตัวแทนที่รับเข้ามาทำหน้าที่นิติบุคคลบริหารอาคารนั้นๆว่าดีหรือไม่ดีอย่างไรก่อนตัดสินใจเลือกซื้อ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าโครงการที่คุณลงทุนจะได้รับการบริหารดูแลอย่างดีโดยมืออาชีพ
  7. ศึกษาข้อมูลทางกฎหมายที่เกี่ยวข้อง – รวมถึงกฎระเบียบข้อบังคับต่างๆของอาคารชุด ต้องไม่ขัดกับความต้องการหรือความจำเป็นของคุณ เช่น การมีสัตว์เลี้ยง ข้อห้ามในการตกแต่งต่อเติมบางอย่าง หรือข้อห้ามเกี่ยวกับรูปแบบการใช้พื้นที่ หากคุณเป็นมือใหม่ ทางที่ดีควรมีที่ปรึกษาหรือตัวแทนที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านกฎหมายมาเป็นผู้ดูแลในส่วนนี้เพื่อช่วยเหลือให้คุณได้รับประโยชน์สูงสุดในการซื้อขายและทำสัญญา
  8. การเลือกตำแหน่งของห้อง – ควรดูทิศทางแดด-ลม ในแต่ละช่วงเวลาของวันว่าจะเป็นห้องที่ต้องรับแดดจัดในช่วงบ่ายตลอดวันหรือไม่ และผลกระทบจากเสียง กลิ่น ควัน จากภายนอกและภายใน รวมถึงความเป็นส่วนตัว ในกรณีที่ห้องอยู่ใกล้จุดสัญจรเช่น บันได ลิฟต์ หรือห้องทิ้งขยะ ก็ควรหลีกเลี่ยง และถ้าเป็นไปได้ คุณควรเลือกห้องที่ได้วิวดีที่สุดในโครงการ เพื่อความน่าอยู่และซื้อง่ายขายคล่อง
  9. สภาพบรรยากาศโดยรวมของพื้นที่ใช้สอยส่วนกลางและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ – สภาพของสิ่งเหล่านี้จะเป็นตัวชี้วัดคร่าวๆว่า คอนโดที่คุณจะซื้อมีความน่าอยู่ทั้งในปัจจุบันและอนาคตมากแค่ไหน หากเป็นคอนโดที่สร้างเสร็จและมีคนมาอยู่อาศัยแล้วสักระยะหนึ่ง สภาพของส่วนกลางก็จะยิ่งสะท้อนได้ว่า ภาพรวมในการดูแลรักษาของสิ่งแวดล้อมส่วนกลางคอนโดนี้มีแนวโน้มที่น่าจะดีต่อไปในอนาคต จากการทำงานของผู้บริหารส่วนกลาง และจากระดับมาตรฐานของผู้อยู่อาศัยโดยรวม

  10. เพื่อนบ้านร่วมอาคารหรือร่วมโครงการ– เพราะพฤติกรรมของคนรอบข้างหรือเพื่อนบ้านเป็นหนึ่งในสิ่งแวดล้อมที่จะทำให้บรรยากาศโดยรวมของโครงการมีความน่าอยู่หรือไม่น่าอยู่ ทางที่ดีคุณจึงควรหาทางศึกษาข้อมูลดูว่า เจ้าของห้องในชั้นเดียวกัน ตึกเดียวกัน หรือเพื่อนบ้านใกล้เรือนเคียงในโครงการนั้นมีลักษณะแบบไหน ซึ่งถ้าเป็นโครงการที่มีคนอยู่อาศัยแล้วหรือเป็นคอนโดมือสองก็จะดูไม่ยาก แต่ถ้าเป็นโครงการใหม่ก็ต้องพิจารณาให้รอบคอบ เพราะคุณคงไม่อยากอยู่ใกล้คนที่คุณไม่ชอบ หรือที่แย่ไปกว่านั้นคือ ห้องข้างๆเกือบทั้งชั้นอาจไม่มีคนอยู่เลยเพราะเป็นห้องที่ถูกซื้อไว้เพื่อเก็งกำไร ลองคิดถึงบรรยากาศที่คุณขึ้นลิฟต์ไปที่ห้องคนเดียวยามค่ำคืนในตึกที่ชั้นของคุณไม่มีใครอาศัยอยู่เลยก็คงหวาดๆพิลึก

ที่มา : livingdd.com